31 มีนาคม 2568

อินสไปร์ ไอวีเอฟ เตรียมบุกตลาดตะวันออกกลาง แง้มโอกาสจับมือ “ซาอุฯ – เอมิเรตส์” หนุนดีมานด์ตลาดสุขภาพโต

กรุงเทพฯ 31 มีนาคม 2568 – บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ Inspire IVF ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากด้วยมาตรฐานสากล เดินหน้าขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ตอกย้ำกลยุทธ์การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ที่เน้นการลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพสูง “ซาอุดีอาระเบีย - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” หลังพบความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้มีบุตรยาก และอานิสงส์จากนโยบายด้านสุขภาพของทั้งสองประเทศ ที่เน้นพัฒนาระบบสาธารณสุขและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพ โดยบริษัทมุ่งสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตระดับสากล พร้อมคว้าโอกาสขยายรายได้และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

นางสาวเกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “อินสไปร์ ไอวีเอฟ เดินเกมกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ (Joint Venture) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูงในตะวันออกกลางอย่าง ‘ซาอุดีอาระเบีย’ (KSA) และ ‘สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์’ (UAE) หลังพบดีมานด์การรักษาภาวะมีบุตรยากโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จากปัจจัยหนุนด้านประชากรที่แต่งงานและมีบุตรช้าลง ผนวกกับนโยบายส่งเสริมสุขภาพของทั้งสองประเทศ อาทิ รัฐบาลซาอุฯ ทุ่มงบกว่า 224 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข รวมถึงการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใน UAE ที่มีมูลค่ากว่า 992 ล้าน AED (หรือ 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมีแนวโน้มเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวทางการแพทย์ (Medical Tourism Hub) ในอนาคต”

นางสาวเกศิณี กล่าวต่อว่า “เพื่อให้การขยายธุรกิจเป็นไปตามแผน เราได้ดำเนินการเข้าพบหน่วยงานและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ทั้งผู้ให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรในตะวันออกกลาง ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบริการดูแลสุขภาพที่บ้าน โดยมีความสนใจทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์ IVF ในซาอุฯ และหน่วยงานที่กำกับดูแลเขตเศรษฐกิจเสรีด้านการแพทย์ใน UAE ที่พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุนด้านสุขภาพ อาทิ การยกเว้นภาษี การถือครองกรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการลงทุนด้านการแพทย์ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจใน UAE ได้อย่างแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ”

“ทั้งนี้ ตลาด IVF ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 43.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 5.57% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2033 (ที่มา: Vision Research Reports) โดยจะได้รับการขับเคลื่อนจากอัตราการมีบุตรยากที่เพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี IVF เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นโอกาสสำคัญของ Inspire IVF ในการก้าวสู่การเป็น ‘ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากมาตรฐานสากลระดับแนวหน้าของประเทศไทยและเอเชีย’ ที่พร้อมเติมเต็มทุกความฝันในการมีบุตรให้เป็นเรื่องง่าย และเป็นไปได้จริง (Simplicity in Every Step) โดยเราพร้อมเดินตามแผนขยายเครือข่ายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา” นางสาวเกศิณี กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามความเคลื่อนไหวของ บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ “IVF” ได้ทางเว็บไซต์ https://www.inspireivf.com เพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/inspireivfthailand หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 063-531-8666 และ 02-251-8666