สิ่งแวดล้อม
ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
การจัดการด้านพลังงาน
บริษัทให้ความสำคัญต่อการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าโดยยังสามารถรักษาประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยบริษัทเริ่มรณรงค์ให้บุคลากรของบริษัทใช้แนวทาง ดังนี้
ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทเริ่มเก็บสถิติการใช้ปริมาณไฟฟ้าเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และติดตามผลของการส่งเสริมแนวทางการจัดการด้านพลังงานของบริษัท
โดยบริษัทมีปริมาณการใช้ไฟฟ้า รวม
การบริหารจัดการน้ำ
บริษัทส่งเสริมให้พนักงาน ผู้บริหาร รวมถึงผู้ใช้บริการของบริษัทใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า โดยดำเนินการดังนี้
ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทเริ่มการเก็บสถิติการปริมาณการใช้น้ำประปาเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และติดตามผลของการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำของบริษัท
โดยบริษัทมีปริมาณการใช้น้ำประปา รวม
การจัดการขยะ ของเสีย และมลพิษ
บริษัทมีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในเกี่ยวกับการกำจัดขยะ โดยมีการคัดแยกขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อเพื่อจัดการอย่างเหมาะสม โดยจัดถังพักขยะแยกตามประเภทขยะ ได้แก่
ขยะทั่วไป
ขยะติดเชื้อ
- ขยะติดเชื้อมีคม เช่น เข็ม, ใบมีด, ปลายสาย IV set เป็นต้น ใส่ในภาชนะป้องกันการทะลุและมีฝาปิด
- ขยะติดเชื้อไม่มีคม เช่น ผ้าซับเลือด, ถุงมือ, Syringe เป็นต้น ใส่ในถุงขยะสีแดงและรองรับด้วยภาชนะไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิดและมีสัญลักษณ์ “ขยะติดเชื้อ”
- ขยะติดเชื้อที่เป็นของเหลว เช่น เลือด, ปัสสาวะ และสารคัดหลั่ง ใส่ในถุงขยะสีแดงและรองรับด้วยภาชนะไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิดและมีสัญลักษณ์ “ขยะติดเชื้อ เช่นเดียวกับขยะติดเชื้อไม่มีคม
ขยะอันตราย
ในการเคลื่อนย้ายขยะจะต้องใช้ภาชนะที่มีฝาปิดหรือผนึกจากบริเวณที่ทิ้งไปยังบริเวณที่พักขยะของทางอาคารที่บริษัทใช้เป็นสถานประกอบการ ซึ่งทางอาคารจะดำเนินการให้ผู้ประกอบการภายนอกเก็บเพื่อนำไปกำจัดยังศูนย์กำจัดขยะ สำหรับในปี 2566 บริษัทมีปริมาณขยะติดเชื้อแบบมีคมรวมประมาณ 20 กิโลกรัม และแบบไม่มีคมรวมประมาณ 80 กิโลกรัม โดยวัดจากปริมาณขยะที่บริษัทได้คัดแยกและนำส่งไปยังพื้นที่สำหรับส่งมอบขยะของอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์
การจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission)
บริษัทตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate Change) ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกประเทศทั่วโลก โดยมีสาเหตุเนื่องมาจากความผันแปรตามธรรมชาติหรือกิจกรรมของมนุษย์ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสามารถส่งผลต่อสุขภาพ การเพาะปลูก ที่อยู่อาศัย
ความปลอดภัยและการทำงานจึงนับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการประกอบกิจการของทุกบริษัททั้งโดยตรงและโดยอ้อม ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมลดปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการให้บริการโดยรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้พลังงานและมีนโยบายเลือกใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่สามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อส่งมอบคุณค่าของบริษัทไปยังผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายของประเทศไทย
ในปี 2566 บริษัทได้มีการจัดทำรายงานการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของบริษัทเป็นครั้งแรกเพื่อใช้สำหรับเป็นข้อมูลปีฐาน โดยมีผลการทบทวนข้อมูลการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท ดังนี้
การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก | แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก | ปี 2566 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) |
---|---|---|
การปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 | การใช้สารดับเพลิง และการใช้สารทำความเย็น | 23 |
การปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 2 | การใช้ไฟฟ้าภายนอก และการใช้พลังงานไฟฟ้าระบบปรับอากาศอาคาร (ไอเย็น) | 19 |
การปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 | ไม่ประเมิน | - |
หมายเหตุ: Scope 1 ได้แก่ การปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกทางตรงขององค์กร (Direct Emissions) จากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรโดยตรง Scope 2 ได้แก่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Indirect Emissions) ได้แก่ ไฟฟ้าที่ถูกนำเข้าจากภายนอกเพื่อใช้งานภายในองค์กร พลังงานนำเข้าอื่น ๆ Scope 3 ได้แก่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Other Indirect Emissions) นอกเหนือจากที่ระบุใน Scope 1 และ Scope 2
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตรวจประเมินก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมของบริษัทและจัดทำรายงานการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรทุก ๆ ปี ตลอดจนส่งเสริมและดำเนินกิจกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ